เปิดโปรแกรม Eclipse
เลือกเมนู File -> New -> Project
เลือก WindowBuilder -> SWT/JFace Java Project
ใส่ชื่อ Project และเลือก Finish
ตอนนี้เราได้ Project ของ Java บน Eclipse เรียบร้อยแล้ว
ให้สร้าง Package คลิกที่ Project -> New -> Package
ตั้งชื่อเป็น com.java.myapp (หรืออื่น ๆ ก็ได้)
หลังจากได้ Package แล้วต่อไปสร้างไฟล์ Class ของ Java โดยเลือก New -> Others (คลิกขวาที่ Package)
ให้เลือก Swing Designer ซึ่งจะเห็นว่ามีให้เลือกอยู่หลายตัว ให้เราเลือกเป็น Application Windows (สำหรับ ตัวอื่น ๆ จะได้เขียนไว้ในบทความอื่น ๆ ว่าแต่ล่ตัวมันแตกต่างกันอย่างไร แต่ปกติแล้ว แตกต่างกันแค่ค่า Default ที่สร้างมาให้ แต่การเขียนไม่ต่างกัน)
กำหนดชื่อ Class
ตอนนี้ได้ไฟล์ .java มาเรียบร้อยแล้ว
เมื่อ View ส่วนของ Code จะเห็นว่ามีการ import ตัว Class ของ javax.swing ขึ้นมาให้อัตโนมัติ และค่าพื้นฐานอื่น ๆ ที่ใช้สำหรับการสร้าง Form
ฃ
การสลับมุมมองระหว่าง Source (Java) และ Design คลิกได้จากตรงนี้
มาแล้ว หน้าจอ Form ที่เป็น GUI และเครื่องมือต่าง ๆ มากมาย ตอนนี้ก็สนุกเลยสำหรับการออกแบบและเขียน
ก่อนอื่นให้เราเข้าใจเกี่ยวกับ Layout ของ Form ซะก่อน ซึ่งปกติแล้วเวลาเราเขียนบน VB.Net หรือ Visual Studio จะมีการจัดพวก Control ต่าง ๆ ตามตำแหน่ง X , Y ของ Form แต่ในภาษา Java เราสามารถเลือกที่จะจัดรูปแบบของ Control และ Object ต่าง ๆ ได้ เช่น จะเป็นแบบ GridLayout (ให้ นึกถึง HTML แบบ Table) และอื่น ๆ อีกหลายรูปแบบ แต่ในค่าพื้นฐานแนะนำให้ปรับเป็น Absolute layout คือจัดวางตำแหน่งแบบ X , Y เหมือนกับ VB.Net ที่เราคุ้นเคย
ทดสอบสร้าง Label ด้วยการลากมาไว้บน Form หรือจะลากพวกอื่น ๆ เพื่อทดสอบก็ได้เช่นเดียวกัน
จะเห็นว่าใน Object ของ Label จะมี Properties ซึ่งเราจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว
การรัน Project ให้คลิกที่ Run
เลือกไฟล์ Class ของ java
จะเห็นว่าเราจะได้ Form ขึ้นมาเป็นผลลัพธ์ตามที่เราได้ออกแบบไว้ โดยที่ยังไม่ต้องมาเขียน Code แม้แต่บรรทัดเดียว แต่เมื่อเราเปลี่ยนมุมมองไปเป็น Code ของ Java จะมีการสร้าง Code ต่าง ๆ ขึ้นมาให้อัตโนมัติ ซึ่งเราจะใช้ตอนที่ต้องการเขียนคำสั่งต่าง ๆ ที่ต้องการ
MyWindowsForm.java
01.
package
com.java.myapp;
02.
03.
import
java.awt.EventQueue;
04.
05.
import
javax.swing.JFrame;
06.
import
javax.swing.JLabel;
07.
08.
public
class
MyWindowsForm {
09.
10.
private
JFrame frame;
11.
12.
/**
13.
* Launch the application.
14.
*/
15.
public
static
void
main(String[] args) {
16.
EventQueue.invokeLater(
new
Runnable() {
17.
public
void
run() {
18.
try
{
19.
MyWindowsForm window =
new
MyWindowsForm();
20.
window.frame.setVisible(
true
);
21.
}
catch
(Exception e) {
22.
e.printStackTrace();
23.
}
24.
}
25.
});
26.
}
27.
28.
/**
29.
* Create the application.
30.
*/
31.
public
MyWindowsForm() {
32.
initialize();
33.
}
34.
35.
/**
36.
* Initialize the contents of the frame.
37.
*/
38.
private
void
initialize() {
39.
frame =
new
JFrame();
40.
frame.setBounds(
100
,
100
,
450
,
300
);
41.
frame.setDefaultCloseOperation(JFrame.EXIT_ON_CLOSE);
42.
frame.getContentPane().setLayout(
null
);
43.
44.
JLabel lblWelcomeToThaicreatecom =
new
JLabel(
"Welcome to ThaiCreate.Com"
);
45.
lblWelcomeToThaicreatecom.setBounds(
152
,
72
,
189
,
14
);
46.
frame.getContentPane().add(lblWelcomeToThaicreatecom);
47.
}
48.
}
สรุป
การใช้ Plugin ของ WindowBuilder สำหรับโปรแกรม Eclipse จะช่วยให้การเขียนโปรแกรม Java แบบ GUI นั้นสะดวกและง่ายมาก และเราสามารถจิรตนาการออกแบบโปรแกรมได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และ ในกรณีที่เราต้องการสร้าง Event เพื่อให้ Form ทำงานต่าง ๆ ตามที่ต้องการ ก็สามารถสร้างพวก Event และเขียน Code Java เพื่มเติมได้ ลองดูบทความต่อไป จะเป็นการสร้าง Event และ Dialog โต้ตอบแบบง่าย ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น