วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

VBA Course : Selections

VBA Course : Selections

เราสามารถสร้าง macro ของ Cell  โดยระบุได้ดังนี้
ให้คลิกขวาที่ VBAProject เลือก Insert เลือก Module
module - selections In the module, type "sub selection" and press Enter.
You will notice that Excel has automatically filled in the end of this new procedure :
Sub selection()

End Sub
Now create a formula button to which you will associate this macro (it is empty for now) :
macro - selections Complete your macro with this code :
Sub selection()
   'Select cell A8
   Range("A8").Select
End Sub
You can test this macro by clicking on your formula button, and you will see that cell A8 is now selected.
We will now edit the macro so that it selects cell A8 on the second worksheet :
Sub selection()
   'Activating of Sheet 2
   Sheets("Sheet2").Activate
   'Selecting of Cell A8
   Range("A8").Select
End Sub
Excel will now activate Sheet 2 and then select cell A8.
Note : the comments (text in green) will help you understand the macros in this course correctly.

Selecting different cells

Sub selection()
   'Selecting A8 and C5
   Range("A8, C5").Select
End Sub

Selecting a range of cells

Sub selection()
   'Selecting cells A1 to A8
   Range("A1:A8").Select
End Sub

Selecting a range of cells that has been renamed

Sub selection()
   'Selecting cells from the "my_range" range
   Range("my_range").Select
End Sub
my range - selections

Selecting a cell by row and column number

Sub selection()
   'Selecting the cell in row 8 and column 1
   Cells(8, 1).Select
End Sub
This method of selecting cells allows for more dynamic selections. It will be quite useful further along.
Here is a little example :
Sub selection()
   'Random selection of a cell from row 1 to 10 and column 1
   Cells(Int(Rnd * 10) + 1, 1).Select
   'Translation :
   'Cells([random_number_between_1_and_10], 1).Select
End Sub
In this case, the row number is : Int(Rnd * 10) + 1, or in other words : a number between 1 and 10 (there's no reason you should learn this code at this point).

Moving a selection

Sub selection()
   'Selecting a cell (described in relation to the cell that is currently active)
   ActiveCell.Offset(2, 1).Select
End Sub
Moving the selection box two rows down and one column to the right :
offset - selections

Selecting rows

It is possible to select entire rows using the Range or Rows commands (the Rows command is of course specific to rows).
Sub selection()
   'Selecting rows 2 to 6
   Range("2:6").Select
End Sub
Sub selection()
   'Selecting rows 2 to 6
   Rows("2:6").Select
End Sub

Selecting columns

As with rows, it is possible to select entire columns using the Range or Columns commands (the Columns command is of course specific to columns).
Sub selection()
   'Selecting columns B to G
   Range("B:G").Select
End Sub
Sub selection()
   'Selecting columns B to G
   Columns("B:G").Select
End Sub

 

วิธีส่ง Feed บทความจาก blogger ไปยัง Twitter และ Facebook โดยอัตโนมัติ



สอนทำบล็อก

จากที่เคยได้เกริ่นไว้ในบทความ “5 วิธี ติดตั้ง Twitter Update บน Blogger”  ว่าจะนำเสนอวิธีการส่งบทความที่เราเขียนไปยัง Twitter แบบอัตโนมัติ สำหรับเหตุผลและประโยชน์จากการทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ บทความที่เราเขียนมีการเผยแพร่และโปรโมทได้หลายทาง ซึ่งย่อมเป็นผลดีกับการเรียกคนเข้ามาเยี่ยมชมบล็อกของเรามากขึ้นนั่นเอง

บทความนี้จะขอนำเสนอ 2 วิธีการด้วยกัน และหากพบวิธีอื่นที่ทำได้สะดวกก็จะได้นำเสนอในบทความต่อ ๆ ไปครับ


วิธีที่ 1

วิธีการนี้เราจะใช้บริการของ Feedburner ซึ่งถ้าใครยังไม่รู้จัก ก็สามารถศึกษาจากบทความ FeedBurner ตัวช่วยให้ Feed แรง!!!
ก่อนที่จะดำเนินการต่อครับ

1.1 เอาล่ะครับถึงตอนนี้ผมก็ขอเหมาว่าทุกคนได้ลงทะเบียน และใช้บริการ Feed ของ Feedburner กันทุกคนแล้ว

1.2 ให้ทุกคนไปที่ http://feedburner.google.com/fb/a/home และ log in เข้าระบบครับ

image

1.3 เมื่อเข้าระบบแล้วคลิกเลือก Feed ที่ได้สร้างเอาไว้แล้ว

สอนแต่งบล็อก


1.4 ในหน้าถัดมาคลิกที่แถบ Publicize

สอนสร้างบล็อก

1.5 จากนั้นคลิกที่ แถบ Socialize >> และคลิกที่ปุ่ม Add a Twitter account >> ใส่ Username Twitter ของคุณ  

แต่ง blogger

1.6 จากนั้น Feed ก็จะส่งข้อมูลไปยัง Twitter ให้เลือกตัวเลือก Allow เพื่อยอมให้ Feed ไปยัง Twitter ได้

ทำ blogger

1.7 ตั้งค่าเพิ่มเติมตามความต้องการอีกเล็กน้อย แล้วทำการ Save ก็จบขั้นตอนครับ

สร้าง blog

เมื่อทำตามขั้นตอนนี้แล้วทุกครั้งที่เขียนบทความลงในบล็อก บทความของเราก็จะส่งไปยัง Twitter โดยอัตโนมัติครับ





วิธีที่ 2

วิธีนี้จะใช้บริการของ twitterfeed.com ซึ่งสามารถทำให้ Feed ของบล็อกเราส่งไปยัง Twitter ได้เช่นเดียวกับวิธีแรก และยังสามารถส่ง Feed ของเราไปยัง Facebook ได้อีกด้วย

ใช้งาน blogger

2.1 ไปที่ http://twitterfeed.com/ ทำการลงทะเบียนให้เรียบร้อย

สอนทำบล็อก 


2.2 ขั้นที่ 2 ให้ทำการกรอก Feed ของบล็อกลงไป


image


ตัวอย่างโค้ดของ RSS feed
http://ชื่อบล็อก.blogspot.com/feeds/posts/default?alt=rss

หรือจะใช้ feed จาก Feedburner ก็ได้ เช่น (อันนี้ Feed ของผมเอง)
http://feeds.feedburner.com/Hackublog


2.3 ขั้นต่อมา (Step 2) ให้เลือกบริการที่เรามี Account หรือ ต้องการใช้บริการ แนะนำ ให้เลือก Twitter และ Facebook ครับ 

image
    


2.3.1 เมื่อเราเลือก Twitter ก็จะมาที่การตั้งค่า feed ไปยัง Twitter ดังรูป

image

   ให้กดปุ่ม Authenticate Twitter >> และเลือก Allow

image 

          

2.3.2 ทำเช่นเดียวกับ 2.3.1 กับ Facebook ด้วยครับ  (ไหนๆ ก็ทำแล้ว ทำให้ครบไปเลย)

image 

image
image


เราต้องตั้งค่าอนุญาตให้ Feed ส่งไปยังหน้าหลักของ Fack book ได้ด้วยนะครับ เสร็จแล้วก็คลิกที่ปุ่ม Create Service
(กรณีที่เราสร้างหน้าไว้บน Facebook แล้วก็สามารถเลือกหน้าที่จะส่ง feed ไปได้ครับ ดูรูปข้างล่าง)

image


2.4 เมื่อสร้าง Service ของ Facebook และ Twitter แล้วก็ คลิกที่ปุ่ม All Done เพื่อดำเนินการต่อ Step 3 ครับ

image

2.5 และเมื่อดำเนินการมาถึงหน้าต่าง (ดังรูปด้านล่าง) ก็ถือว่าจบขั้นตอนครับ สามารถ Sign out จาก twitterfeed.com ได้เลยครับ

image

วิธีเปลี่ยน DNS เพื่อแก้ปัญหาอินเตอร์เน็ตช้า เน็ตไม่เสถียร พร้อมรู้จักกับ DNS ว่าคืออะไร?



หากเพื่อนๆกำลังมี ปัญหาอินเทอร์เน็ตที่ใช้อยู่ไม่ค่อยเสถียร เกิดอาการ อินเตอร์เน็ตช้า อินเตอร์เน็ตอืด ล่ะก็ วันนี้เรามีอยู่หนึ่งวิธีมานำเสนอให้เพื่อนๆได้ลองทำเพื่อแก้ปัญหาอินเตอร์เน็ตไม่เสถียรได้ง่ายๆ นั่นก็คือ "วิธีเปลี่ยน DNS" นั้นเองค่ะ แต่หลายๆคนอาจจะยังสงสัยอยู่ว่า เจ้า DNS นั้นมันคืออะไร และมันสามารถเร่งความเร็วในการใช้อินเตอร์เน็ตให้เร็วมากขึ้นได้จริงเหรอ วันนี้เรามาจะมาตอบข้อสงสัยนั้นทีละข้อกัน
DNS หรือ Domain Name System นั้นมีความสำคัญกับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมากๆเลยค่ะ เพราะ DNS เป็นระบบการตั้งชื่อโดเมน ซึ่งทำหน้าที่คล้ายๆกับสมุดโทรศัพท์นั่นเอง เพราะจริงๆแล้วเวลาเราท่องเว็บเราจะพิมพ์ ชื่อ URL เว็บไซต์ลงไปในเบราว์เซอร์ เช่น wikipedia.org แทนการพิมพ์ IP เข้าไปแบบตรงๆไง โดยหลังจากนั้นเบราว์เซอร์ของเราจะวิ่งไปถามกับเจ้า DNS ว่าหมายเลข IP ของ wikipedia.org คืออะไร? DNS ก็จะตอบว่า คือ 208.80.152.2 ยังไงล่ะ จากนั้นเบราว์เซอร์ของเราก็จะวิ่งไปดึงข้อมูลหน้าเว็บ wikipedia.org มาแสดงผลให้กับเรานั่นเอง
ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการ DNS ให้ใช้งานแบบฟรีๆหลายที่ เช่น Google Public DNS, OpenDNS หรือ Norton DNS เป็นต้น โดยแต่ละที่มีหมายเลข DNS ดังต่อไปนี้

- Google Public DNS คือ หมายเลข 8.8.8.8 และ 8.8.4.4
- OpenDNS คือ หมายเลข 208.67.222.222 และ 208.67.220.220
- DNS Advantage คือ หมายเลข 156.154.70.1 และ 156.154.71.1

วิธีการตั้งค่า DNS ในระบบปฏิบัติการ Windows

ขั้นตอนที่ 1 : ให้เราเข้าไปตั้งค่า Network ในเครื่องของเราก่อน ซึ่งสามารถทำได้โดย 2 วิธี (วิธีไหนก็ได้) ดังนี้คือ

1.1 : คลิกขวาที่ไอคอนอินเตอร์เน็ตแถบ Taskbar ด้านขวาล่างของ Desktop





1.2 : เข้าไปที่ Control Panel > กลุ่ม Network and Internet > View network status and tasks








ขั้นตอนที่ 2 : คลิกที่ Connections ของเรา




ขั้นตอนที่ 3 : กดที่เมนู Properties เพื่อเข้าสู่การตั้งค่าอินเตอร์เน็ต





ขั้นตอนที่ 4 : ให้เราคลิกเลือกที่ Internet Protocol Version 4 (TCP/IPv4) แล้วกดที่ Properties




ขั้นตอนที่ 5 : เลือกตัวเลือก Use the following DNS server address แล้วกรอก DNS ที่เราต้องการใช้ลงไป


จากนั้นกด OK ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยน DNS แล้วล่ะค่ะ แต่หากยังไม่ดีขึ้น ให้เราลองเปลี่ยน DNS เป็นของเจ้าอื่นอีกที (ในตัวอย่างเป็น DNS ของ Googlepublic DNS )

Wireless, Wi-Fi, Internet ไม่เสถียร มีวิธีแก้อย่างไรมาดูกัน

เพื่อนๆหลายคนคงเคยเจอกับปัญหา wifi ไม่เสถียร , internet หลุดบ่อย , เข้า wifi ไม่ได้ ซึ่งสาเหตุของอาการดังกล่าวนั้นอาจมีได้หลายสาเหตุด้วยกัน เช่น อาการค้างของซอร์ฟแวร์ภานในเครื่องของเราเอง หรือแม้กระทั่งโดนไวรัสบางประเภทที่เข้าไปจัดการกับไดร์เวอร์ระบบ network ของเรา แต่เพื่อนๆไม่ต้องตกใจไปครับ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหา ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ หรือปัญหา Internet ไม่เสถียร มาฝากครับ ซึ่งสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้เลยครับ



วิธีแก้ปัญหา Wi-Fi โดยคำสั่ง Command Dos

1. กด Window + R เพื่อเรียก Runcommand ขึ้นมา จากนั้นให้พิมพ์คำว่า cmd ลงไปแล้วกด Enter



2. พิมพ์คำสั่ง netsh winsock reset ลงไปแล้วกด Enter

Tip : คำสั่ง netsh winsock reset เป็นคำสั่งที่ใช้ในการรีเซ็ตระบบ Network ที่รับส่งข้อมูลต่างๆจากเซิฟเวอร์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั่นเอง





3. ทำการ Restart คอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ 1 ครั้ง

เพียงเท่านี้ ระบบ wifi หรือระบบ Network ของเราก็จะกลับสู่ปกติแล้วล่ะครับ แต่หากยังเกิดปัญหาเครือข่ายยังไม่เสถียรหรือ network ช้าอยู่สามารถอ่านวิธีแก้ได้เพิ่มเติม

วิธีตรวจสอบและแก้ไข กรณีไดร์เวอร์เสียมีปัญหา หาไดร์เวอร์ไม่เจอ ลงไดร์เวอร์ไม่ครบ


คอมพิวเตอร์มีอาการแปลกๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่ ปัญหาเหล่านี้นั้นอาจเกิดมาจากการ ลงไดร์เวอร์ไม่ครบ ไดร์เวอร์เสีย หรือการลงไดร์เวอร์ไม่ตรงรุ่น นั่นเอง จึงทำให้คอมพิวเตอร์นั้นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและมีอาการแปลกๆให้เรา ได้เห็นอยู่บ่อยๆ ดังนั้นวันนี้ itnews4u จะมาแนะนำวิธีตรวจสอบไดร์เวอร์และวิธีแก้ไขเมื่อไดร์เวอร์มีปัญหา ไดร์เวอร์ไม่ครบ โดยจะมีวิธีการอย่างไรมาดูกันเลยครับ



วิธีตรวจสอบและแก้ไขไดร์เวอร์มีปัญหา ไดร์เวอร์ไม่ครบ

ขั้นตอนที่ 1 : กดปุ่ม Windows + R ขึ้นมาจากนั้นพิมพ์คำสั่ง mmc devmgmt.msc ลงไปแล้วกด OK






ขั้นตอนที่ 2 : ให้เราสังเกตุว่ารายการที่แสดงออกมานั้นมีเครื่องหมายตกใจหรือไม่ หากมีแสดงว่าไดร์เวอร์ตัวนั้นมีปัญหาอยู่แน่นอน



- ให้เราคลิกขวาที่ไดร์เวอร์ตัวที่มีปัญหาแล้วเลือกเมนู Properties แล้วเราจะพบกับหน้าต่างรายละเอียดของอุปกรณ์ชิ้นนั้น
- จากนั้นให้เรากดไปที่เมนู Details แล้วเลือกค่า Proprety เป็น Hardware IDs



เราจะพบกับค่า Value ต่างๆของตัวอุปกรณ์นั้น ซึ่งค่า Value นี่เองที่เราจะนำไปใช้ค้นหาและดาวน์โหลดไดร์เวอร์ต่างๆบน Google ได้เลยครับ จากนั้นเมือ่ได้ไดร์เวอร์แล้วก็นำมาติดตั้งให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ไดร์เวอร์ต่างๆของเพื่อนๆก็จะครบแล้วคอมพิวเตอร์ก็จะทำงานได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้วล่ะครับ

OpenCanvas โปรแกรมวาดการ์ตูนญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบเครื่อง



หากเพื่อนๆเป็นคนหนึ่งที่รักในการวาดการ์ตูน หรือรักในการวาดภาพจากจินตนาการ และกำลังตามหาโปรแกรมที่จะช่วยสานจินตนาการนั้นให้เป็นจริงอยู่ล่ะก็ ขอแนะนำเพื่อนๆให้ทดลองใช้โปรแกรม openCanvas โปรแกรมวาดการ์ตูนยอดฮิต ที่จะช่วยให้ผลงานของเพื่อนๆออกมาทั้งสวยและสมจริงสุดๆ เทียบเท่าได้กับนักวาดการ์ตูนมืออาชีพเลยทีเดียวค่ะ

โปรแกรม openCanvas เป็นโปรแกรมวาดการ์ตูนหรือโปรแกรมวาดรูปที่ พัฒนาขึ้นโดยนักพัฒนาชาวญี่ปุ่น โดยตัวโปรแกรมมีเครื่องมือที่ช่วยในการวาดรูปมากมาย ใช้งานง่าย ประมวลผลการทำงานได้รวดเร็ว โดยหลักการทำงานของโปรแกรมจะคล้ายๆกับโปรแกรม Photoshop โปรแกรมแต่งรูปชื่อดัง ด้วยระบบการวาดรูปแบบลำดับชั้น (Layer) ที่จะให้เพื่อนๆได้ทำการแก้ไขภาพได้ง่ายๆ และยังสามารถเลือกหัวปากกาได้ตามใจชอบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น หัวปากกา ดินสอ ปิกม่า มาคเกอร์ สีน้ำ ชอก อะคิลิก แอร์บรัส เป็นต้น แถมยังมีฟิวเตอร์ ให้ตกแต่งภาพวาดการ์ตูนอีกเพียบ เช่น การทำความมืดหรือความสว่างของสี การทำภาพเบลอ การใส่ลายนูน เป็นต้น ส่วนทางด้านของการเลือกสี ก็จะมีส่วนของ Color Picker เพื่อให้เพื่อนๆได้เลือกสีจากแม่สีทั้ง 3 สี (RGB) ได้ง่ายๆ



และที่เป็น Highlight เลยสำหรับโปรแกรม openCanvas ก็คือ ความสามารถที่เรียกว่า "อีเว้นต์ (Event)" คือเจ้าโปรแกรม openCanvas นั้นสามารถที่จะอัดกระบวนการวาดภาพของเพื่อนๆได้ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ คือตั้งแต่กระดาษสีขาวๆไปจนถึงภาพวาดที่เสร็จสมบูรณ์นั้นเองค่ะ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับการสร้างงานศิลปะ หรือเพื่อการศึกษาที่จะช่วยให้เราได้รู้ถึงวิธีการวาดรูปที่ถูกต้องอีกด้วย ล่ะค่ะ หรือว่าเพื่อนๆจะไปดูตามอีเว้นไฟล์ ที่มีคนทำไว้เพื่อดูถึงเทคนิคการวาดรูปและลองทำตามกันดูได้ง่ายๆเลยล่ะค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม โปรแกรม openCanvas นั้น มีคุณสมบัติเป็นแชร์แวร์ (Shareware) ซึ่งก็คือ ยังเป็นโปรแกรมที่เปิดให้ใช้งานได้ในระยะเวลาที่จำกัดเพียงเท่านั้น เพราะทางผู้พัฒนาได้พัฒนาออกมาให้ได้ทดลองใช้งานกันก่อน โดยการให้ทดลองใช้ได้นาน 30 วันหรือใช้งานได้จำนวน 300 ครั้ง หากเพื่อนๆอยากได้โปรแกรมตัวเต็มไปใช้งานกันแล้วล่ะก็ เพียงแค่ทำการลงทะเบียน โดยจะเสียค่าลงทะเบียนเป็นเงินเพียง 59 ดอลลาร์ หรือหากเพื่อนๆมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโปรแกรมหรือต้องการติดต่อกับทางผู้พัฒนา สามารถติดต่อได้ผ่านทางอีเมล์ support@portalgraphics.net (ภาษาอังกฤษ และ ภาษาญี่ปุ่น) ได้เลยค่ะ

ซึ่งในวันนี้ทางเว็บไซต์ของเราก็ได้นำลิงค์สำหรับ download opencanvas (Shareware)มาฝากเพื่อนๆกันด้วยล่ะค่ะ

ผู้พัฒนา : Yusuke Kamiyamane

ดาวน์โหลดโปรแกรม openCanvas

32 Bit / 64 Bit

วิธีใช้โปรแกรม ultraiso ในการลง windows ด้วย usb (ใช้ได้ 100%)

ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงเคยผ่านการลง Windows มาหลายต่อหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งไม่ว่าจะให้เพื่อนลงให้ จ้างร้านลงให้ หรือลงเองก็ตาม ซึ่งหลายๆคนเมื่อพูดถึงการลง Windows จะส่ายหัวทันที เพราะคิดว่าการ ลง Windows นั้นยุ่งยากต้องทำนั่นนู่นนี่เยอะแยะไปหมด แต่วันนี้คุณจะเปลี่ยนความคิดทันทีเมื่อรู้จักกับการลง Windows ผ่าน USB ด้วยโปรแกรม UltraISO ซึ่งทางเว็บไซต์ itnews4u ของเราจะพาคุณทำตามไปแบบ Step By Step ช้าๆ โดยมีภาพประกอบแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด



สิ่งที่ต้องเตรียมในการลง Windows ด้วย USB

1. ไฟล์ Windows นามสกุลไฟล์เป็น .iso

2. โปรแกรม UltraISO

3. แฟรชไดร์ฟ (แนะนำขนาด 4Gb ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดของ Windows ที่จะลงอีกที)



วิธีการลง Windows ด้วย USB ด้วยโปรแกรม Ultraiso

สำคัญ : ให้เตรียมไฟล์ Windows นามสกุล .iso ไว้ และให้เสียบแฟรชไดร์ฟที่มีความจุเพียงพอต่อไฟล์ Window รอไว้เลยครับก่อนทำขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 : เปิดโปรแกรม ultraiso แล้วไปที่เมนู File -> Open





ขั้นตอนที่ 2 : ค้นหาที่อยู่ไฟล์ของเรา คลิกเลือกไฟล์แล้วกด Open





ขั้นตอนที่ 3 : ตรวจสอบความผิดพลาดของไฟล์ก่อน ซึ่งหากไฟล์นั้นสมบูรณ์ พร้อมใช้งาน จะปรากฏตัวไฟล์ระบบในตำแหน่งรูปด้านล่าง





ขั้นตอนที่ 4 : ไปที่เมนู Bootable เลือก Write Disk Image...





ขั้นตอนที่ 5 : กด Format แฟรชไดร์ฟของเราก่อน เมื่อเสร็จแล้วให้กด Write จากนั้นโปรแกรมจะทำการเขียนไฟล์ Window ลงในแฟรชไดร์ฟของเรา มันจะขึ้นแถบสถานะ ให้เรารอจนกว่าจะเสร็จครับ





ขั้นตอนที่ 6 : ตรวจสอบว่าไฟล์ Windows ให้เราเข้าไปดูที่ Computer ของเราครับหากไฟล์เขียนเสร็จสมบูรณ์ รูปแฟรชไดร์ฟของเราจะเปลี่ยนไปแบบนี้ครับ (อาจจะไม่เป็นเหมือนในรูปก็ได้ แต่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งชื่อ และรูปแฟรช์ไดร์ฟ ของเราครับ)



จากนั้นก็ถึงเวลารีสตาร์ทเครื่องแล้วลง Windows แล้วล่ะครับ ซึ่งให้เราไปตั้งค่าที่ Bios ให้ Boot จากแฟรทไดร์ฟเราก็สามารถลงได้เหมือนปกติแล้วล่ะครับ

วิธีแชร์ไฟล์ โฟลเดอร์ บน Windows ให้กับคอมเครื่องอื่นง่ายๆ โดยผ่านระบบ LAN WLAN





หากเพื่อนๆ ประสบปัญหาเกี่ยวกับการ ย้ายไฟล์ คัดลอกไฟล์ ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังใช้อยู่กับ คอมพิวเตอร์ของเพื่อน อันเนื่องมาจากไม่มีเจ้า USB Flash Drive มาไว้ Copy ไฟล์ อย่าเพิ่งหมดหวังไปครับ เพราะวันนี้ทีมงาน itnews4u ของเราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ "ระบบ File Sharing บนระบบปฏิบัติการ Windows" กันครับ

File Sharing คือ ระบบการแชร์ไฟล์บน Windows ที่จะทำให้เราสามารถแชร์ไฟล์ต่างๆระหว่างคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย LAN WLAN ได้อย่างง่ายดายเพียงเราเข้าไปตั้งค่าใช้งานตาม วิธีดังต่อ ไปนี้ครับ

วิธีแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์ใน Windows 8 , 8.1

ขั้นตอนที่ 1 : ก่อนอื่นเราต้องทำการตั้งค่าเครือข่ายเพื่อให้สามารถมองเห็น คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆบนเครือข่าย และ เปิดฟังก์ชันการแชร์ไฟล์ ซะก่อน
- ให้เราเข้าไปที่ Control Panel > เมนู Network and Internet > คลิกที่ Choose homegroup and Sharing options






ขั้นตอนที่ 2 : คลิกที่ Change advanced sharing settings...





ขั้นตอนที่ 3 : ทำการตั้งค่า การแชร์ไฟล์ระหว่างๆเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรากับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ให้สามารถมองเห็นกันได้แล้วสามารถเข้าถึงไฟล์และโฟร์เดอร์ของเราได้ โดยทำการตั้งค่าดังรูปด้านล่างครับ

- Private (current profile)



- Guest or Public



- All Network



เมื่อเราตั้งค่าครบตามรูปด้านบนแล้ว ให้เราทำการกดที่ปุ่ม Save Changes ครับ



ขั้นตอนที่ 4 : ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบ เรื่อง File and Printer Sharing ของ Firewall เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะผ่าน Firewall ได้
- ให้เราเข้าไปที่ Control Panel อีกครั้งแล้วคลิกไปที่เมนู System and Security







ขั้นตอนที่ 5 : ให้เรากดที่ไป Allow and app through Windows Firewall






ขั้นตอนที่ 6 : ทำการตั้งค่า App ใน Windows ที่เราต้องการจะให้ผ่าน Firewall
- ให้เรากด Change Settings
- จากนั้นให้มองหา File and Printer Sharing แล้วทำการติ๊กช่องว่างดังรูปด้านล่าง






ขั้นตอนที่ 7 : เลือกเป้าหมายไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่จะแชร์ > คลิกขวา > เลือกเมนู Properties





ขั้นตอนที่ 8 : กดที่เมนู Sharing > แล้วกดที่ปุ่ม Share





ขั้นตอนที่ 9 : กดเลือกที่ ประเภทบุคคลที่ต้องการแชร์ให้เราเลือกเป็น Everyone แล้วกด Add จากนั้นกดปุ่ม Share



เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการตั้งค่าแชร์ไฟล์บนระบบปฏิบัติการ Windows แล้วล่ะครับ

Set MongoDB in the windows path environment

  Let’s set MongoDB in the windows environment in just a few steps. Step 1: First download a suitable MongoDB version according to your mach...