วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

บทที่ 1 : คำสั่งสำหรับผู้ใช้พื้นฐาน (Basic user command)

How to linux (Case study จาก Redhat 6.2 ไปถึง Fedora Core 4)

บทที่ 1 : คำสั่งสำหรับผู้ใช้พื้นฐาน (Basic user command)
    1.1 คำสั่ง ls : : : แสดงรายชื่อแฟ้มในห้องปัจจุบัน หรือห้องอื่น ๆ ที่ต้องการ 
               : ใช้แสดงรายชื่อแฟ้มทั้งหมดใน home directory
ทุกท่านที่มี account ใน linux จะมี home directory ของตนเอง เพื่อใช้เก็บแฟ้มต่าง ๆ ภายใต้ระบบ linux เมื่อต้องการทราบว่ามีแฟ้มอะไร เก็บไว้บ้าง สามารถใช้คำสั่ง ls ได้ และสามารถกำหนด parameter ได้หลายตัว เช่น -al --sort เป็นต้น ถ้าต้องการทราบว่าปัจจุบันตนเองอยู่ใน Directory ใด ให้ใช้คำสั่ง pwd
    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    ls -alt :: เพื่อแสดงรายชื่อแฟ้ม และจัดเรียงตามเวลา (a=all, l=long listing, t=sort by modification time)
    ls -alt | more :: เพื่อแสดงรายชื่อแฟ้มทั้งหมด แต่หยุดทีละหน้า ถ้ามีจำนวนแฟ้มเกินที่จะแสดงได้ ใน 1 หน้า
    ls -al --sort=time | more :: แสดงรายชื่อแฟ้มเรียงตามเวลา แยกทีละหน้า แบบ long listing
    ls -R | more :: แสดงรายชื่อในทุก directory ในห้องปัจจุบัน (R=Recursive)
    ls -alSR | grep Trash | more :: แสดงข้อมูลแฟ้ม Trash จากทุก Sub directory
    ls -alS | more :: แสดงรายชื่อแบบจัดเรียงตามขนาดแบบ Descending ใช้ดูขนาด mail box ใน /var/mail ได้ดี
    ถ้าสังเกตนะครับ แฟ้มที่มี . หน้าชื่อแฟ้ม หมายถึง แฟ้มที่ซ่อนไว้ ถ้าใช้คำสั่ง ls หรือ ls -l จะไม่เห็นแฟ้มเหล่านี้
    ถ้ามีอักษร D ที่ Column แรก ในส่วนแสดงรายชื่อแฟ้ม ด้วยคำสั่ง ls -al จะหมายถึง directory
    : list directory contents

     
    1.2 คำสั่ง chmod : : : เปลี่ยนสถานะของแฟ้มเช่น Read Write eXecute 
    : ใช้เปลี่ยนสิทธิของแฟ้ม เจ้าของ(Owner), คนในกลุ่ม(Group), คนอื่น(Other) สามารถทำอะไรได้บ้าง
เมื่อใช้คำสั่ง ls ท่านจะเห็นตัวอักษร RWXRWXRWX หรือทำนองนี้หน้าชื่อแฟ้ม ซึ่งเป็นการกำหนด สิทธิของแต่ละแฟ้ม ว่า อ่านได้ เขียนได้ และประมวลผลได้ โดยแยกเป็นส่วนของ เจ้าของ กลุ่ม คนอื่น ซึ่งเป็นคำสั่งที่จำเป็นมากสำหรับ webmaster ในการดูแลระบบ และท่านที่ต้องการเขียน CGI จะต้องรู้คำสั่งนี้ เพราะ เมื่อส่งแฟ้ม CGI เข้าไปใน server และต้องการให้คนทั่วไปเข้ามาใช้บริการ โปรแกรมของตนที่เขียนขึ้นด้วย Perl จะไม่สามารถใช้ได้ ถ้าไม่กำหนดให้คนอื่น สามารถประมวลผลได้ (x) จึงจำเป็นต้องใช้คำสั่ง เช่น chmod 755 hello.pl หรือ chmod 775 fileforyou.pl หรือ chmod +x test.pl เป็นต้น
ในแต่ละกลุ่มจะมีการกำหนดสิทธิได้ 3 แบบ
ตัวอักษร R มาจาก Read หมายถึง อ่าน
ตัวอักษร W มาจาก Write หมายถึง เขียน
ตัวอักษร X มาจาก Execute หมายถึง ประมวลผล
ตัวอย่างเช่น
--- : ไม่มีสิทธิอะไรเลย (เลขที่ใช้คือ 0)
--X : ประมวลผลได้อย่างเดียว (เลขที่ใช้คือ 1)
R-- : อ่านได้อย่างเดียว (เลขที่ใช้คือ 4)
RW- : อ่าน และเขียนได้ (เลขที่ใช้คือ 6)
R-X : อ่าน และประมวลผลได้ (เลขที่ใช้คือ 5)
RWX : อ่าน เขียน และประมวลผลได้ (เลขที่ใช้คือ 7)
ความหมายของ RWXRWXRWX จะเห็นว่ามีอักษร 9 ตัว
3 ตัวแรกหมายถึง เจ้าของ
3 ตัวที่สองหมายถึง กลุ่ม
3 ตัวที่สามหมายถึง คนอื่น
ตัวอย่างเช่น
RWX------ : เจ้าของเท่านั้นที่มีสิทธิทุกอย่าง (เลขที่ใช้คือ 700)
RWXRWX--- : เจ้าของ และสมาชิกกลุ่มเดียวกันมีสิทธิทุกอย่าง (เลขที่ใช้คือ 770)
RWXR-XR-X : เจ้าของทำได้หมด ส่วนกลุ่มและคนอื่นอ่านและประมวลผลได้ (เลขที่ใช้คือ 755)
R--R--R-- : ทุกคนอ่านได้อย่างเดียว (เลขที่ใช้คือ 444)
    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    chmod 777 index.php :: ทำให้แฟ้มนี้ อ่าน เขียน และประมวลผล โดยทั้ง 3 กลุ่ม
    chmod 755 * -Rf :: ทำให้ทุกแฟ้ม ทุก direcroty ในห้องปัจจุบัน เปลี่ยนตามที่กำหนด
    : change file access permissions

    1.3 คำสั่ง man : : : แสดงรายละเอียดของคำสั่ง (Manual) 
    : เป็นคำสั่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้อธิบายคำสั่งต่าง ๆ ให้ท่านได้
ผมเชื่อว่าทุกคนที่ใช้ unix หรือ linux ต้องเคยใช้คำสั่งนี้มาก่อน เพราะจะเป็นคำสั่งที่ช่วยอธิบายหน้าที่ของคำสั่ง พร้อมกับแสดง parameter ที่สามารถใช้ได้ทั้งหมดของคำสั่งนั้น และยังมีตัวอย่างการใช้ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องอีก ทำให้ประหยัดเวลาในการค้นเอกสารได้อย่างมาก บางท่านอาจศึกษา linux ด้วยการอ่านจาก man อย่างเดียวเลยก็มีนะครับ โดยไม่ต้องไปหาซื้อหนังสือที่ไหนมาอ่านก็ทำได้
    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    man man :: เพื่ออธิบายคำสั่ง man เอง ว่าตัวคำสั่งนี้ใช้อย่างไร
    man ls :: เพื่ออธิบายคำสั่ง ls ว่าใช้อย่างไร
    man useradd :: เพื่ออธิบายคำสั่ง useradd ว่าใช้อย่างไร
    : format and display the on-line manual pages

     
    1.4 คำสั่ง mkdir, rmdir, cd : : : คำสั่งเกี่ยวกับ Directory หรือ Folder เพื่อสร้าง หรือลบ 
    : งานต่าง ๆ เกี่ยวกับ directory
cd หมายถึงเปลี่ยน directory (change working directory)
    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    mkdir hello :: สร้าง directory ชื่อ hello ในห้องปัจจุบัน
    rmdir hello.htm :: จะลบแฟ้มชื่อ hello.htm
    cd / :: ย้าย directory ไปยัง root หรือห้องนอกสุด
    cd .. :: ย้าย directory ออกไปข้างบน 1 ระดับ
    cd ~/x :: เข้าไปยังห้อง x ของ home directory เช่น /home/thaiall/x ถ้า home directory คือ /home/thaiall
    : make, remove empty, change working directory

    ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ dos มาก่อนต้องคุ้นเคยกับ directory แน่นอน สำหรับคำสั่งเกี่ยวกับ directory ในที่นี้มี 3 คำสั่ง
    mkdir หมายถึง สร้าง directory (make directories)
    rm หมายถึง ลบ directory (remove files or directories) และคำสั่งนี้ยังใช้ลบแฟ้มตามปกติได้อีกด้วย
     
    1.5 คำสั่ง pico : : : editor ยอดฮิตใน Linux ที่ต้องมากับ Pine เป็น Text mode ที่ใช้ง่ายที่สุด
    : เป็น editor ที่ใช้สำหรับแก้ไขแฟ้มแบบ text คล้าย vi แต่มีประสิทธิภาพกว่ามาก

หลายครั้ง ที่พิมพ์คำว่า pico แล้วไม่มีในเครื่อง ก็เพราะไม่ได้ลงโปรแกรม pine เมื่อต้องการใช้ pico ก็ต้องติดตั้งโปรแกรม pine เข้าไปในเครื่อง จากแผ่น CD ด้วยคำสั่ง rpm -i pine*
    เพียงแต่พิมพ์คำว่า pico แล้ว enter ก็ใช้งานได้เลย การจะจัดเก็บ หรืองานต่าง ๆ ที่มีบริการไว้มากมาย ท่านสามารถอ่านได้จากเมนูด้านล่าง ซึ่งเครือ่งหมาย ^ หมายถึงการกดปุ่ม Ctrl ประกอบอักษรต่าง ๆ นั่นเอง ผมคิดว่าท่านน่าจะพออ่านรู้เรื่อง หรือจะพิมพ์ว่า pico xx ก็จะเป็นการสร้างแฟ้มชื่อ xx ให้ทันที แต่หากมีแล้ว ก็จะเปิดแฟ้ม xx มาให้แก้ไขในโปรแกรม xx เมื่อท่านต้องการเลิกก็ทำได้โดยกดปุ่ม Ctrl-X เป็นอันเรียบร้อย หากท่านใดเคยใช้ vi เมื่อลองใช้โปรแกรมนี้จะติดใจอย่างแน่นอน เพราะใช้งานได้ง่ายกว่า หลายเท่านัก

     
    1.6 คำสั่ง emacs : : : editor ยอดฮิตใน Linux ใช้ยากกว่า pico นิดหน่อย 
    : เป็น editor ที่ใช้สำหรับแก้ไขแฟ้มแบบ text คล้าย vi แต่มีประสิทธิภาพกว่ามาก

ทำงานได้คล้าย ๆ กับ pico แต่หลายคนบอกว่า ตัวนี้ทำงานได้ดีกว่า แต่ผมว่า pico ใช้งานได้ง่ายกว่ากันเยอะเลย เพราะเห็นเมนูด้านล่าง แต่ของ emacs จะใช้ ctrl-h ดูส่วนช่วยเหลือ และกด ctrl-x + ctrl-c จึงจะออกจากโปรแกรม อาจเป็นเพราะผมใช้ไม่ชำนาญมังครับ ในเมื่อผมใช้ pico เป็น editor ผมคงไม่จำเป็นต้องศึกษา emacs เพิ่มเติมแล้ว ยกเว้นว่าสักวันอาจมีเหตุจำเป็นที่ความสามารถของ pico ให้ไม่ได้ แต่ emacs ให้ได้ก็เป็นได้
    Welcome to GNU Emacs, one component of a Linux-based GNU system.
    Get help           C-h  (Hold down CTRL and press h)
    Undo changes       C-x u       Exit Emacs               C-x C-c
    Get a tutorial     C-h t       Use Info to read docs    C-h i
    Ordering manuals   C-h RET
    Activate menubar   F10  or  ESC `  or   M-`
    (`C-' means use the CTRL key.  `M-' means use the Meta (or Alt) key.
    If you have no Meta key, you may instead type ESC followed by the character.)
    
     
    1.7 คำสั่ง vi : : : editor ยอดฮิตใน Linux ที่ใช้ยากที่สุด 
    : เป็น editor ที่ใช้สำหรับแก้ไขแฟ้มแบบ text
Text editor ที่ใช้งานได้ยาก แต่มีใน linux ทุกรุ่น ในบางเครื่องไม่มี pico เพราะไม่ได้ติดตั้ง mail หรือ pine จึงจำเป็นต้องใช้โปรแกรม vi สำหรับแก้ไขข้อมูลในแฟ้มต่าง ๆ ของ linux เช่นการใช้คำสั่ง man ก็คือการใช้ความสามารถของ vi ในการนำข้อมูลมาแสดงผลนั่นเอง
    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    esc     กลับไปยังโหมดคำสั่ง
    enter   ย้ายไปยังต้นบรรทัดของบรรทัดถัดไป
    i       ใส่ข้อความก่อนเคอร์เซอร์
    a       ใส่ข้อความหลังเคอร์เซอร์
    A       ใส่ข้อความที่ท้ายบรรทัดปัจจุบัน
    dd      ลบบรรทัดปัจจุบันทั้งบรรทัด
    x       ลบอักษร 1 ตัวอักษร
    cw      เปลี่ยนข้อความ
    :w      บันทึกแฟ้ม
    :q!     ออกโดยไม่ เปลี่ยนแปลงใด ๆ
    :wq     บันทึกแฟ้ม และออกจากโปรแกรม vi
    
    : a programmers text editor

     
    1.8 คำสั่ง id, finger, who, w : : : โปรแกรมตรวจสอบ username ของตนเอง 
    : ทุกคำสั่งข้างต้นใช้สำหรับตรวจสอบผู้ใช้ แต่จะให้รายละเอียดต่างกันไป
: print real and effective UIDs and GIDs

    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    id uname :: ใช้ตรวจดูว่ามี account ในระบบหรือไม่ (ผลแสดงรหัสผลู้ใช้ และชื่อกลุ่ม)
    finger uname :: ใช้ตรวจดูว่ามี account uname นี้ในระบบหรือไม่ ให้ผลละเอียด ทั้ง last login หรือ email ฉบับล่าสุด
    finger :: ใช้แสดงรายชื่อทุกคนในระบบที่กำลัง login อยู่
    finger @www.isinthai.com :: ใช้แสดงรายชื่อทุกคนในระบบที่กำลัง login อยู่ ตรวจ server นอกระบบได้ ถ้าเขาไม่ปิด
    who |grep thai :: ใช้แสดงรายชื่อทุกคนในระบบ แต่ใช้นอกระบบตนเองไม่ได้ และเลือกเฉพาะบรรทัดที่มีอักษร thai
    w :: ใช้แสดงรายชื่อทุกคนในระบบ แต่ใช้นอกระบบตนเองไม่ได้
     
    1.9 คำสั่ง cat : : : แสดงข้อมูลในแฟ้มเหมือนคำสั่ง type ในระบบ DOS 
    : แสดงข้อมูลในแฟ้ม คล้ายคำสั่ง type ในระบบ DOS
: concatenate files and print on the standard output

    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    cat /etc/passwd :: แสดงข้อมูลในแฟ้ม /etc/passwd
    cat /etc/passwd | more :: แสดงข้อมูลในแฟ้ม /etc/passwd ทีละหน้า
    ตัวอย่างข้อมูลในแฟ้ม passwd
    suwit:x:500:500:Suwit:/home/suwit:/bin/bash
    prasert:x:501:501::/home/prasert:/bin/bash
    bcom101:x:502:502::/home/bcom302:/bin/bash
     
    1.10 คำสั่ง ifconfig : : : ดู IP หรือเพิ่ม IP เข้าไปใน linux server 
    : แสดงข้อมูลเกี่ยวกับ Network interface และแสดง ip ต่าง ๆ ที่มีการเพิ่มเข้าไปใน server ได้
: configure a network interface

    ดูผลการทำงานของคำสั่งifconfig
    eth0      Link encap:Ethernet  HWaddr 00:20:18:C0:06:C4
              inet addr:202.29.78.12  Bcast:202.29.78.255  Mask:255.255.255.0
              UP BROADCAST RUNNING MULTICAST  MTU:1500  Metric:1
              RX packets:673054 errors:0 dropped:0 overruns:0 frame:0
              TX packets:666268 errors:0 dropped:0 overruns:0 carrier:0
              collisions:0 txqueuelen:100
              RX bytes:74892865 (71.4 Mb)  TX bytes:680121131 (648.6 Mb)
              Interrupt:9 Base address:0xcf00
    eth0:1    Link encap:Ethernet  HWaddr 00:20:18:C0:06:C4
              inet addr:202.29.78.1  Bcast:202.29.78.255  Mask:255.255.255.0
              UP BROADCAST RUNNING MULTICAST  MTU:1500  Metric:1
              Interrupt:9 Base address:0xcf00

    เพิ่ม ip ใหม่อีก 1 ip เช่น#/sbin/ifconfig eth0:1 202.29.78.1
    สามารถดูวิธีเพิ่มหลาย IP ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ได้จากหัวข้อ 9.10 ด้วยการแก้ไขแฟ้ม /etc/rc.d/rc.local
     
    1.11 คำสั่ง netstat : : : แสดงสถานะของเครือข่าย 
    : แสดงสถานะของเครือข่ายว่ามีโปรแกรมใดเปิดให้บริการ
: Print network connections, routing tables, interface statistics, masquerade connections, and multicast memberships

    ดูผลการทำงานของคำสั่ง netstat -a
    Active Internet connections (servers and established)
    Proto Recv-Q Send-Q Local Address           Foreign Address         State
    tcp        0      0 *:mysql                 *:*                     LISTEN
    tcp        0      0 *:http                  *:*                     LISTEN
    tcp        0      0 *:ftp                   *:*                     LISTEN
    tcp        0      0 *:ssh                   *:*                     LISTEN
    tcp        0      0 *:smtp                  *:*                     LISTEN
    tcp        0      0 *:https                 *:*                     LISTEN
    tcp        0      0 www.isinthai.com:ssh    202.29.78.200:1225      ESTABLISHED
    Active UNIX domain sockets (servers and established)
    Proto RefCnt Flags       Type       State         I-Node Path
    unix  2      [ ACC ]     STREAM     LISTENING     855    /var/lib/mysql/mysql.sock
    unix  2      [ ACC ]     STREAM     LISTENING     119    /dev/log
    unix  2      [ ]         STREAM     CONNECTED     3007
    unix  2      [ ]         STREAM     CONNECTED     859
    
     
    1.12 คำสั่ง service : : : แสดงสถานะโปรแกรมที่เปิดให้บริการ 
    : ดูสถานะของบริการต่าง ๆ ว่าถูกเปิดหรือ running อยู่หรือไม่
: Internet network services list

    ดูผลการทำงานของคำสั่ง service --status-all
    httpd (pid 2160 2159 2158 2155 2114 583 579 578 577 576 575 573) is running...
    mysqld (pid 446 429 427 414) is running...
    sendmail (pid 1700 1690) is running...
    sshd (pid 2970 358) is running...
    xinetd (pid 3923 369) is running...
    
     
    1.13 คำสั่ง xinetd : : : แสดงบริการที่เปิดใต้โปรแกรม xinetd 
: ดูบริการภายใน xinetd ว่าอะไรเปิดอยู่บ้าง ทำให้เข้าไปเปิดที่ห้อง /etc/xinetd.d แล้วเลือกเปิดบริการเฉพาะที่ต้องการ เช่นแก้แฟ้ม talk เพื่อให้เปิดบริการ talk ใน server เป็นต้น แต่ใน Fedora ที่ผมติดตั้งไม่มีคำสั่งนี้ครับ

    ดูผลบางส่วนจากการทำงานของคำสั่ง xinetd -d
    Service configuration: ftp
            id = ftp
            flags = IPv4
            socket_type = stream
            Protocol (name,number) = (tcp,6)
            Nice = 10
            Groups = no
            Bind = All addresses.
            Server = /usr/sbin/vsftpd
            Server argv = vsftpd
            Only from: All sites
            No access: No blocked sites
            Logging to syslog. Facility = authpriv, level = info
            Log_on_success flags = HOST PID
            Log_on_failure flags = HOST
    
     
    1.14 คำสั่ง whereis : : : ค้นหาแฟ้มที่ต้องการว่าอยู่ที่ห้องใด 
    : ค้นหาแฟ้มที่ต้องการว่าอยู่ที่ห้องใด แต่ค้นได้เฉพาะที่กำหนดไว้ใน PATH เท่านั้น หากต้องการค้นทั้งเครื่องต้องใช้คำสั่ง find
: locate the binary, source, and manual page files for a command

    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    whereis usermod :: แสดงห้องที่เก็บคำสั่ง usermod ทำให้สามารถสั่ง run จากห้องที่เก็บคำสั่งโดยตรงได้
    whereis ifconfig :: แสดงห้องที่เก็บคำสั่ง ifconfig ทำให้ใช้คำสั่งเช่น /sbin/ifconfig ได้โดยตรง
     
    1.15 คำสั่ง cp, rm, mv : : : จัดการแฟ้มเช่น คัดลอก ลบ และย้าย 
: จัดการแฟ้มเช่น คัดลอก ลบ และย้าย

    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    cp x y :: เดิมมีแฟ้มชื่อ x ต้องการแฟ้ม y ที่เหมือน x ขึ้นมาใหม่ สามารถใช้คำสั่ง cp
    rm y :: ลบแฟ้ม y ออกจากเครื่อง ซึ่งอยู่ใน directory ปัจจุบัน
    rm -r [directoryname] :: จะลบ directory ในเครื่อง sun และแฟ้มทั้งหมดใน directory นั้น และการลบแฟ้ม จะมีการถาม confirm ทุกแฟ้มเสมอ
    rm -rf [directoryname] :: จะลบ directory ใช้ใน Redhat และแฟ้มทั้งหมดใน directory นั้น และการลบแฟ้ม จะมีการถาม confirm ทุกแฟ้มเสมอ
    rm -f * :: ลบแฟ้มทั้งหมดโดยไม่ถาม yes
    mv x /root :: ย้ายแฟ้ม x จากห้องปัจจุบันไปไว้ในห้อง /root
     
    1.16 คำสั่ง ping : : : ตรวจสอบ ip และการเชื่อมต่อ internet 
    : ตรวจสอบ ip ของเครื่องเป้าหมาย และการเชื่อมต่อ internet
: send ICMP ECHO_REQUEST to network hosts

    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    ping www.thaiall.com :: ตัวสอบการมีอยู่ของ www.thaiall.com และแสดงเลข IP ของเว็บนี้
    ping 202.29.78.100 -c 5 :: แสดงผลการทดสอบเพียง 5 บรรทัด
    ping 202.29.78.2 :: ผลดังข้างล่างนี้ แสดงว่าไม่พบเครื่องที่มีเลข ip ดังกล่าว
    PING 202.29.78.2 (202.29.78.2) from 202.29.78.12 : 56(84) bytes of data.
    From 202.29.78.12 icmp_seq=1 Destination Host Unreachable
    From 202.29.78.12 icmp_seq=2 Destination Host Unreachable
    From 202.29.78.12 icmp_seq=3 Destination Host Unreachable
     
    1.17 คำสั่ง env : : : แสดงค่า environment ปัจจุบัน 
    : แสดงค่า environment ปัจจุบัน
: run a program in a modified environment

    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    env
      HISTSIZE=1000 SSH_CLIENT=202.29.78.100 1091 22 OLDPWD=/usr/sbin QTDIR=/usr/lib/qt3-gcc3.2 SSH_TTY=/dev/pts/0 USER=burin LS_COLORS=no=00:fi=00:di=00;34:ln=00;36:pi=40;33:so=00;35:bd=40;.... : PATH=/usr/local/bin:/bin:/usr/bin:/usr/X11R6/bin MAIL=/var/spool/mail/burin PWD=/etc INPUTRC=/etc/inputrc LANG=en_US.UTF-8 HOME=/root SHLVL=2 LOGNAME=burin LESSOPEN=|/usr/bin/lesspipe.sh %s G_BROKEN_FILENAMES=1 _=/bin/env
     
    1.18 คำสั่ง lynx : : : Text browser ที่ใช้งานง่าย ใช้ดู source หรือ download ได้ 
: Text browser ที่ใช้งานง่าย ใช้ดู source หรือ download ได้ (ในเครื่องผมไม่ได้ลงไว้)

    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    lynx www.thaiall.com :: เพื่อเปิดเว็บ www.thaiall.com แบบ text mode
    lynx http://www.yonok.ac.th :: เพื่อเปิดเว็บ www.yonok.ac.th แบบ text mode
    lynx -dump http://www.yonok.ac.th :: เพื่อแสดงผลลัพธ์แบบไม่ interactive คือการ view ผลแล้วหยุดทันที
    lynx -dump -width=500 http://piology.org/.procmailrc.html|grep '^|'|cut -c3- :: ตัวอย่างการนำไปใช้
     
    1.19 คำสั่ง nslookup : : : แสดงข้อมูลเกี่ยวกับ name server จาก ip หรือ domain name 
    : แสดงข้อมูลเกี่ยวกับ name server จาก ip หรือ domain name
: query Internet name servers interactively

    คำสั่งนี้ ถูกประกาศว่าต่อไปอาจไม่พบใน Redhat รุ่นใหม่ ถ้าต้องการใช้คำสั่งแบบนี้สามารถใช้ dig หรือ host แทนได้
     เช่น host yn1.yonok.ac.th หรือ dig yn1.yonok.ac.th เมื่อเข้าไปใน nslookup สามารถออกมาได้ด้วยการพิมพ์คำสั่ง exit หลังเครื่องหมาย > ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน nslookup 202.28.18.65
      Non-authoritative answer: 65.18.28.202.in-addr.arpa name = mars.uni.net.th. Authoritative answers can be found from: 18.28.202.in-addr.arpa nameserver = mars.uni.net.th. 18.28.202.in-addr.arpa nameserver = ns.netserv.chula.ac.th. mars.uni.net.th internet address = 202.28.18.65
    nslookup www.thaiall.com
      Name: www.thaiall.com Address: 66.150.1.141
     
    1.20 คำสั่ง tail : : : แสดงส่วนท้ายของแฟ้มที่มีขนาดใหญ่ ต้องข้ามกับ cat ที่ดูตั้งแต่เริ่มแฟ้ม
    : แสดงส่วนท้ายของแฟ้มที่มีขนาดใหญ่ ตรงข้ามกับ cat ที่ดูตั้งแต่เริ่มแฟ้ม
: output the last part of files

    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    tail index.html :: ดูส่วนท้ายของแฟ้ม index.html ใน Current directory
    tail --lines=5 /var/log/messages :: ดูส่วนท้ายของแฟ้ม /var/log/messages แต่ต้องเป็น root จึงจะดูได้
    tail /var/log/html/access.log :: ดูส่วนท้ายเพียง 10 บรรทัด ซึ่งเป็นค่า default ที่ไม่ได้กำหนดจำนวนบรรทัด
    tail --lines=100 /var/log/html/access_log > access_bak :: เป็นการ backup ในขั้นแรก ก่อนใช้ mv ย้ายไปทับแฟ้มเดิม
     
     1.21 คำสั่ง telnet : : : ใช้ติดต่อเข้า server ต่าง ๆ ตาม port ที่ต้องการ . 

: ใช้ติดต่อเข้า server ต่าง ๆ ตาม port ที่ต้องการ แต่ปัจจุบัน server ต่าง ๆ ปิดบริการ telnet แต่เปิด SSH แทน
: user interface to the TELNET protocol

    ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
    telnet 202.202.202.202 :: ขอติดต่อเข้าเครื่อง 202.202.202.202 การไม่กำหนด port คือเข้า port 23
    telnet www.school.net.th 21 :: ขอติดต่อผ่าน port 21 ซึ่งเป็น FTP port
    telnet mail.loxinfo.co.th 25 :: ตรวจ smtp ว่าตอบสนองกลับมา หรือไม่
    telnet class.yonok.ac.th 110 :: ทดสอบ pop service ของ windows server 2003
    Microsoft Windows POP3 Service Version 1.0 ready.
    USER aa@class.yonok.ac.th
    +OK
    PASS xxxxxxx
    +OK User successfully logged on
    telnet 202.29.78.13 80 :: ให้พิมพ์คำสั่ง GET แม้มองไม่เห็นหลังกดปุ่ม enter (ใช้ทดสอบการตอบสนองของ server)
    GET /index.html
    <frameset>
    <frame src=index.php>
    </frameset>
    Connection to host lost.
    C:\>
100 : Continue
101 : Switching Protocols
200 : OK
201 : Created
202 : Accepted
203 : Non-Authoritative Information
204 : No Content
205 : Reset Content
206 : Partial Content
300 : Multiple Choices
301 : Moved Permanently
302 : Moved Temporarily
303 : See Other
304 : Not Modified
305 : Use Proxy
400 : Bad Request
401 : Unauthorized
402 : Payment Required
403 : Forbidden
404 : Not Found
405 : Method Not Allowed
406 : Not Acceptable
407 : Proxy Authentication Required
408 : Request Time-out
409 : Conflict
410 : Gone
411 : Length Required
412 : Precondition Failed
413 : Request Entity Too Large
414 : Request-URI Too Large
415 : Unsupported Media Type
500 : Internal Server Error
501 : Not Implemented
502 : Bad Gateway
503 : Service Unavailable
504 : Gateway Time-out
505 : HTTP Version not supported

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Set MongoDB in the windows path environment

  Let’s set MongoDB in the windows environment in just a few steps. Step 1: First download a suitable MongoDB version according to your mach...