ในบทนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวแปรและประเภทข้อมูลชนิดต่างๆ
ในภาษา Java
ที่จะใช้กับข้อมูลในกรณีที่โปรแกรมต้องจัดการกับข้อมูลหลากหลายรูปแบบ
และนี่เป็นตารางของประเภทข้อมูลในภาษา Java ทั้ง 8 ชนิด
ใน
ตารางข้างบนนั้นเป็นประเภทของตัวแปรหรือชนิดข้อมูลในภาษา Java
ขนาดที่ใช้เก็บนั้นอาจจะแตกต่างกันออกไปขึ้นกับระบบของคุณ
ข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างของโปรแกรมที่แสดงค่าของ Rank ที่ตัวแปรประเภทต่างๆ
เก็บข้อมูลได้และขนาดของมัน
ก่อนที่จะใช้งานตัวแปรเพื่อเก็บข้อมูลนั้น คุณจะต้องทำการประกาศตัวแปรก่อน เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถจองพื้นที่ในหนวยความจำสำหรับข้อมูลของคุณ โดยการประกาศตัวแปรในภาษา Java นั้นมีรูปแบบดังนี้
ในบทนี้ คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวแปร วิธีการประกาศตัวแปร และการใช้งานตัวแปร ในบทต่อไปเราจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับค่าคงที่ในภาษา Java ซึ่งมันเป็นตัวแปรชนิดพิเศษที่มีความสำคัญ
ประเภทข้อมูลพื้นฐานในภาษา Java
ใน ภาษา Java นั้นมีข้อมูลพื้นฐาน 8 ชนิดให้สามารถใช้งาน เรามักจะเรียกข้อมูลเหล่านี้ว่า Primitive datatype ในการเขียนโปรแกรมนั้นคุณจำเป็นต้องเลือกใช้ประเภทข้อมูลให้ตรงกับข้อมูลที่ คุณจะเก็บมากที่สุด เพราะมันจะช่วยลดการหน่วยความจำและความรวดเร็วในการทำงานด้วย ยกตัวอย่างเช่น คุณจะเก็บวันที่มีค่าระหว่าง 1 - 31 คุณควรจะใช้ข้อมูลชนิด byte เพราะมันเพียงพอต่อการเก็บแล้วและนี่เป็นตารางของประเภทข้อมูลในภาษา Java ทั้ง 8 ชนิด
Type | Explanation | Values Rank |
---|---|---|
byte | 8 bit (1 byte) integer value | -128 - 127 |
short | 16 bit (2 byte) integer value | -32768 - 32767 |
int | 32 bit (4 byte) integer value | -2147483648 - 2147483647 |
long | 64 bit (8 byte) integer value | -9223372036854775808 - 9223372036854775807 |
float | 32 bit (4 byte) floating-point value | 1.4E-45 - 3.4028235E38 |
double | 64 bit (8 byte) floating-point value | 4.9E-324 - 1.7976931348623157E308 |
char | 16 bit (2 byte) character Unicode encoding value | |
boolean | 1 bit boolean value | true and false |
boolean | 1 bit boolean value | true and false |
public class DataType { public static void main (String[] args) { System.out.println("Date Type Rank"); System.out.println("Byte\t" + Byte.MIN_VALUE + " - " + Byte.MAX_VALUE); System.out.println("Short\t" + Short.MIN_VALUE + " - " + Short.MAX_VALUE); System.out.println("Integer\t" + Integer.MIN_VALUE + " - " + Integer.MAX_VALUE); System.out.println("Long\t" + Long.MIN_VALUE + " - " + Long.MAX_VALUE); System.out.println("Float\t" + Float.MIN_VALUE + " - " + Float.MAX_VALUE); System.out.println("Double\t" + Double.MIN_VALUE + " - " + Double.MAX_VALUE); System.out.println("Boolean\t" + Boolean.TRUE + " and " + Boolean.FALSE); System.out.println("\nDate Type Size (bit)"); System.out.println("Byte\t" + Byte.SIZE); System.out.println("Short\t" + Short.SIZE); System.out.println("Integer\t" + Integer.SIZE); System.out.println("Long\t" + Long.SIZE); System.out.println("Float\t" + Float.SIZE); System.out.println("Double\t" + Double.SIZE); } }จากตัวอย่างด้านบนนั้น ตัวแปรทุกประเภทจะสร้างมาจากคลาส ดังนั้นคุณสามารถเรียกดูข้อมูลของมันได้ผ่าน property member ของมัน
MIN_VALUE
ใช่สำหรับรับค่าต่ำสุดของข้อมูลประเภทนั้น และ MAX_VALUE
รับค่าสูงสุดของข้อมูลประเภทนั้นมา และ SIZE
ดูขนาดที่ใช้เก็บข้อมูลมีหน่วยเป็น bit มันอาจจะแตกต่างกันขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้ เช่น 32 bit หรือ 64 bit systems Date Type Rank Byte -128 - 127 Short -32768 - 32767 Integer -2147483648 - 2147483647 Long -9223372036854775808 - 9223372036854775807 Float 1.4E-45 - 3.4028235E38 Double 4.9E-324 - 1.7976931348623157E308 Boolean true and false Date Type Size (bit) Byte 8 Short 16 Integer 32 Long 64 Float 32 Double 64และข้างล่างนี้ผลเป็นลัพธ์เมื่อรันโปรแกรม
การประกาศตัวแปรในภาษา Java
ตัว แปร คือสิ่งที่ใช้เก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์บนหน่วยความจำ และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น เดียวกันกับตอนที่คุณเรียนคณิตศาสตร์ในมัธยม มันมีตัวแปร x, y และมันสามารถคำนวณผลลัพธ์ไปเก็บไว้ในตัวแปร z ด้วยตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ ในคอมพิวเตอร์ก็เป็นแนวคิดเดียวกัน เราใช้ตัวแปรเพื่อเก็บข้อมูลเพื่อนำไปคำนวณและจัดการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ ออกมาก่อนที่จะใช้งานตัวแปรเพื่อเก็บข้อมูลนั้น คุณจะต้องทำการประกาศตัวแปรก่อน เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถจองพื้นที่ในหนวยความจำสำหรับข้อมูลของคุณ โดยการประกาศตัวแปรในภาษา Java นั้นมีรูปแบบดังนี้
dataType variableName; dataType variableName = value;โดยที่
dataType
เป็นประเภทข้อมูลในภาษา Java เช่น int long หรือ double และ variableName
เป็นชื่อของตัวแปรโดยมันจะมีหลักคือ ตัวแปรต้องประกอบไปด้วย
ตัวอักษรพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ตัวแปลเลข และเครื่องหมาย Underscore (_)
เท่านั้น และตัวแปรต้องไม่ขึ้นต้นด้วยตัวเลข สำหรับ value
เป็นตัวเลือกว่าคุณจะกำหนดค่าให้กับตัวแปรในทันทีหลังจากที่ประกาศมันหรือไม่ Note: การตั้งชื่อตัวแปรนี้ยังใช้กับการประกาศตัวแปรประเภทออบเจ็คและ String ซึ่งเป็นตัวแปรชนิดที่ผู้ใช้สร้างขึ้น ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้ในตอนหลังของบทเรียนนี้ ในเรื่องคลาสและ String
int a; // declare variable float b, c; // declare multi variables int n = 8; // declare and assign char c = 'y'; // declare and assign int d; d = n + 10; // declare variable with expressionตัวอย่าง ด้านบนเป็นการประกาศตัวแปรในแบบต่างๆ คุณสามารถประกาศตัวแปรและกำหนดค่าให้มันภายหลังหรือกำหนดในตอนเริ่มต้นก็ได้ และคุณสามารถประกาศตัวแปรได้หลายตัวในครั้งเดียวได้โดยการใช้เครื่องหมาย comma (,) เช่น
double x, y, z;
เป็นการประกาศตัวแปร 3 ตัว เพื่อเก็บข้อมูลประเภท double หลักในการตั้งชื่อตัวแปรในภาษา Java
อย่าง ที่เราได้เคยบอก ในการประกาศชื่อตัวแปรนั้น จะมีหลักการตั้งชื่อของมัน โดยหลักการตั้งชื่อนี้ ยังใช้กับเมธอด คลาส และการประกาศอื่นที่ user-defined ขึ้นมา โดยมีดังนี้- การตั้งชื่อนั้นจะประกอบไปด้วย ตัวอักษร ตัวเลข และเครื่องหมาย (_)เท่านั้น
- ตัวแปรต้องไม่ขึ้นต้นด้วยตัวเลข
- ตัวแปรต้องไม่ใช้ Keyword ในภาษา Java ในบทก่อนหน้าที่เราพูดถึง
- ถึงแม้การประกาศตัวแปรสามารถใช้ภาษาอื่นๆ ได้แต่เราแนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษ
// valid int a = 2; int myNumber = 4; float _money = 65.3f; double my_money1 = 54; // invalid int 1ab = 3; // invalid start with number int for = 4; // invalid using reserved keywordใน การตั้งชื่อตัวแปรและเมธอดนั้นในภาษา Java นั้น เรามักจะขึ้นต้นด้วยตัวเล็ก ถ้าหากมีหลายคำให้ใช้ตัวใหญ่คั่นหนึ่งตัว ดังในตัวอย่างที่คุณเห็นข้างบน เช่น
myNumber
ในบทนี้ คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวแปร วิธีการประกาศตัวแปร และการใช้งานตัวแปร ในบทต่อไปเราจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับค่าคงที่ในภาษา Java ซึ่งมันเป็นตัวแปรชนิดพิเศษที่มีความสำคัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น